Monday, August 11, 2014

เราจะเตรียมเครื่องดื่มน้ำตาลและเกลือแร่สำหรับอาการท้องเสีย (โออาร์เอส, ORS) เองได้อย่างไร ?

คุณถาม
เราจะเตรียมเครื่องดื่มน้ำตาลและเกลือแร่สำหรับอาการท้องเสีย (โออาร์เอส, ORS) เองได้อย่างไร ?

เราตอบ
ถ้าหากคุณไม่สามารถหาซื้อผงชงโออาร์เอส (ORS)  เราสามารถเตรียมเครื่องดื่มโออาร์เอส (ORS) เองได้ง่ายๆ โดยการเตรียมสิ่งต่อไปนี้

ส่วนผสม
1. น้ำต้มเดือดที่ตั้งไว้ให้เย็นแล้ว 750 มล. หรือประมาณ 1 ขวดน้ำปลาขวดกลม
2. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือแกงหรือเกลือปรุงอาหาร ครึ่ง ช้อนชา

วิธีผสม
1. ผสมน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และ เกลือแกง ครึ่ง ช้อนชาลงในน้ำต้มเดือดที่เย็นแล้ว 750 มล. ให้ละลายเข้ากัน
2. เก็บเครื่องดื่มที่เตรียมได้ในภาชนะที่ปิดสนิท

วิธีการดื่มเครื่องดื่มโออาร์เอส (ORS)
ให้ค่อยๆ จิบทีละน้อยๆ และจิบบ่อยๆ เพื่อชดเชยน้ำ น้ำตาล และเกลือแร่ที่สุญเสียไปจากอาการท้องเสีย

ข้อควรระวัง
ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มโออาร์เอส (ORS) ทีละเยอะๆ รวดเดียวเพราะร่างกายจะดูดซึมเข้าไปใช้ไม่ทัน ทำให้มีปริมาณน้ำและเกลือแร่เหลืออยู่ในทางเดินอาหารเยอะ มีผลให้ไปกระตุ้นการบีบตัวของสำไส้ทำให้เกิดการขับถ่ายอุจจาระที่มากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีกับผู้ที่เป็นท้องเสีย

การเก็บรักษา
1. ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องหรือในบริเวณที่หลีกเลี่ยงจากความร้อนและแสงแดด
2. เครื่องดื่มโออาร์เอส (ORS) ที่เตรียมขึ้นควรใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมงหรือ 1 วัน หากเกินจากนั้นให้เททิ้ง แล้วเตรียมใหม่ดีกว่า


บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ไม่แนะนำให้นำไปใช้วินิจฉัยหรือรักษาโรคด้วยตนเอง ขอความกรุณาปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือบุคลากรทางสาธารณสุขเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง


บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์ สิงหาคม 2557 หากจะเผยแพร่โปรดอ้างอิงมายังหน้านี้

http://witzeternia.blogspot.com/2014/08/ors_11.html

Sunday, August 10, 2014

ทำไมท้องเสียแล้วต้องกินโออาร์เอส (ORS) กินเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับคนออกกำลังกายไม่ได้เหรอ?

คุณถาม
ทำไมท้องเสียแล้วต้องกินโออาร์เอส (ORS) กินเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับคนออกกำลังกายไม่ได้เหรอ?

เราตอบ
1. เนื่องจากการสูญเสียน้ำตาลและเกลือแร่ในผู้ที่เป็นท้องเสีย และผู้ออกกำลังกายนั้นไม่เหมือนกัน การดื่มเครื่องดื่มโออาร์เอสจะชดเชยสมดุลน้ำตาลและเกลือแร่สำหรับผู้ที่เป็นท้องเสียได้ดีกว่า

2. เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับคนออกกำลังกายโดยส่วนใหญ่จะมีปริมาณน้ำตาลและเกลือแร่บางชนิดสูงกว่าในโออาร์เอส (ORS) หากดื่มเข้าไปน้ำตาลและเกลือแร่ส่วนเกินจะไปดึงน้ำต่างให้เข้ามาในทางเดินอาหาร มีผลให้เกิดการกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ส่งผลให้ถ่ายอุจจาระรุนแรงหรือมากขึ้นได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้ที่เป็นท้องเสีย

ปล. ดื่มโออาร์เอส (ORS) จิบทีละนิด ไม่ต้องเยอะ แต่จิบบ่อยๆ นะ..
ปล2. มีปัญหาสุขภาพปรึกษาแพทย์ และเภสัชกรใกล้บ้านท่านได้นะครับ แต่ถ้ามีปัญหาความรัก เชิญปรึกษาศิราณี
ปล3. มีปัญหาเรื่องเงินโปรดปรึกษาฝ่ายสินเชื่อธนาคารนะฮ๊าฟ....



บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ไม่แนะนำให้นำไปใช้วินิจฉัยหรือรักษาโรคด้วยตนเอง ขอความกรุณาปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือบุคลากรทางสาธารณสุขเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง


บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์ สิงหาคม 2557 หากจะเผยแพร่โปรดอ้างอิงมายังหน้านี้
http://witzeternia.blogspot.com/2014/08/ors.html

Friday, August 8, 2014

ทำไมคุณเภสัชกรไม่จ่ายยาหยุดถ่าย? เป็นคำถามที่ถูกถามวันนี้...

ท้องเสียหรือท้องร่วงนั้นเกิดได้หลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆ ที่พบบ่อย คือ การได้รับสารพิษหรือเชื้อโรคเข้าไปในทางเดินอาหาร ซึ่งเจ้าสารพิษหรือเชื้อโรคนี้ไปก่ออันตรายให้กับร่างกาย ร่างกายจึงพยายามจะกำจัดสิ่งแปลกปลอมแสนอันตรายออกนอกร่างกาย ทำให้เกิดอาการถ่ายอุจจาระหลายครั้ง

ดังนั้นหากเราไปกินยาหยุดถ่ายอาจทำให้เกิดการสะสมของสารพิษหรือเชื้อโรคในร่างกายได้ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายถึงชีวิต ขอแนะนำว่าหากจะใช้ยาหยุดถ่ายควรอยู่ในการดูแลของแพทย์และเภสัชกรอย่างใกล้ชิด....

สำหรับการปฏิบัติตัวเบื้องต้นเมื่อมีอาการท้องเสีย คือ การดื่มเครื่องดื่มผสมน้ำตาลและเกลือแร่สำหรับอาการท้องเสีย ที่นิยมเรียกกันว่า โออาร์เอส (ORS) ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านยาทั่วไป 

เรื่องเครื่องดื่มเกลือแร่นี้สำคัญมาก เพราะสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของผู้ป่วยท้องเสีย คือการขาดเกลือแร่และน้ำนั่นเอง แนะนำให้จิบเครื่องดื่มน้ำตาลและเกลือแร่บ่อยๆ ครั้งละน้อยๆ เพื่อชดเชยน้ำ น้ำตาลและเกลือแร่ที่เสียไปจากการขับถ่ายและอาเจียน

ประเด็นสำคัญอีกเรื่องก็คือ อย่าไปซื้อผิดเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย เพราะอาจทำให้อาการท้องเสียแย่ลงได้...

หากมีอาการท้องเสียรุนแรงหรือมีไข้ร่วมด้วยให้รีบไปพบแพทย์นะครับ

ท่านสามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้จากเภสัชกรตัวจริงใกล้บ้านท่านได้นะครับ


บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ไม่แนะนำให้นำไปใช้วินิจฉัยหรือรักษาโรคด้วยตนเอง ขอความกรุณาปรึกษาแพทย์ เภสัชกร หรือบุคลากรทางสาธารณสุขเพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง


บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์ สิงหาคม 2557 หากจะเผยแพร่โปรดอ้างอิงมายังหน้านี้
http://witzeternia.blogspot.com/2014/08/blog-post.html