Sunday, March 8, 2015

ทำไมหมอหรือเภสัชกรชอบเตือนเรื่องอาหารเสริมกันจังเลย?

ชอบมีคนไข้บอกว่า ทำไมเภสัช/หมอชอบต่อต้านเรื่องอาหารเสริม?
จะมาตอบว่าเราไม่ได้ต่อต้านทุกตัว แต่เราเลือกที่จะใช้ให้เหมาะสมมากกว่า มาดูกันทีละประเด็น
.
ประเด็นที่ 1 ทำไมเราถึงต่อต้านอาหารเสริมบางตัวกันเหลือเกิน
อาหารเสริมที่พวกเราต่อต้านส่วนใหญ่ถ้าไม่อวดอ้างเกินจริงก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่แอบผสมสารอันตรายเข้าไป ซึ่งอาหารเสริมทั้ง 2 แบบนี้จะอันตรายต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพทางการเงินของคุณๆ อย่างแน่นอน
.
ประเด็นที่ 2 ทำไมเราถึงขอให้คุณทานยาและหยุดอาหารเสริมบางตัว
มีหลายครั้งมากที่เราพบว่าอาหารเสริมที่คุณทานกับยาที่คุณจำเป็นต้องใช้นั้นไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไรนัก ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็อย่างเช่น การทานย้าต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด คู่กับ ทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากแปะก๊วย อันนี้ต้องระวังอย่างมาก เพราะตัวสารสกัดจากแปะก๊วยเองมีผลข้างเคียงทำให้เลือดแข็งตัวช้าซึ่งจะไปเสริมการออกฤทธิ์ของยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือดเข้าไปอีก หลายคนบอกว่างั้นก็ยิ่งดีน่ะสิ แต่เสียใจด้วยที่เราต้องบอกว่าเป็นเรื่องอันตรายเสียมากกว่า เพราะนั่นจะเป็นความเสี่ยงที่ทำให้ท่านอาจเสียชีวิตได้แบบไม่รู้ตัว เราขอให้คุณนึกภาพตาม ถ้าสมมติว่าคุณมีแผลในกระเพาะอาหารไม่ใช่แผลใหญ่โตอะไร ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรมาก แต่คุณกินยา+แปะก๊วยนี้อยู่ เลือดก็ค่อยๆ ซึมไหลออกมาจากแผลในกระเพาะอาหารเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ เผลอๆ กว่าคุณจะรู้สึกตัวก็สายไปเสียแล้ว
.
ประเด็นที่ 3 ทำไมไม่ใช้อาหารเสริมแทนยาไปเลยล่ะ
ต่อจากประเด็นที่ 2 หลายครั้งเราจะเจอบางคนพูดว่างั้นทำไมไม่กินแปะก๊วนแทนยาล่ะ ในเมื่อมันก็ทำให้เลือดแข็งตัวช้าเหมือนกัน อันนี้ต้องบอกตามตรงว่า เพราะเราไม่มีข้อมูลที่แน่นอนและชัดเจนเพียงพอของสารสกัดแปะก๊วยเมื่อเทียบกับการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือดน่ะครับ ถ้าจะพูดยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือ ถ้าคุณใช้ยาโอกาสที่จะได้ผล คือ 95% กับใช้แปะก๊วยโอกาสที่จะได้ผลอาจจะเป็น 0% หรือ 50% หรือ 100% เราก็ตอบไม่ได้ ในฐานะผู้ให้การรักษาคนไข้เราย่อมต้องทำตาม "สิ่งที่รู้" มากกว่า "สิ่งที่ไม่รู้" อย่างแน่นอนอยู่แล้วครับ แต่หากท่านทั้งหลายเลือกที่จะใช้หนทางแห่งความเสี่ยงนั่นเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่คุณได้รับตามกฎหมายอยู่แล้วครับ แต่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราบุคลากรทางการแพทย์ที่มีจรรยาบรรณจะกระทำครับ...
.
วันนี้พอเท่านี้ก่อนดีกว่า ไว้โอกาสหน้าถ้านึกอะไรออกจะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ

เบาหวาน ตาย-ทีละ-นิด Die-a-bit Diabetes ตอนที่ 1 : ความน่ากลัวของโรคเบาหวาน

วันนี้หูเพี้ยนฟังคำว่า Diabetes ที่คนไข้ชาวคอร์เคเชี่ยนพูดเป็นคำว่า Die-A-Bit (ตาย-ทีละ-นิด) เลยเกิดไอเดียเขียนบทความนี้ขึ้นมา

โรคเบาหวาน เปรียบไปแล้วก็คล้ายๆ กุญแจมรณะที่จะค่อยๆ ไขประตูแห่งความทรมานหรือความตายของมนุษย์เราไปทีละบาน หลายคนอาจจะสงสัยว่าเจ้าโรคเบาหวานนี้น่ากลัวยังไง เราค่อยๆมาดูกันดีกว่า...

ความน่ากลัวที่ 1 โดยตัวโรคเบาหวานเอง ถ้าควบคุมเอาไว้ไม่ได้ จะค่อยๆ ทำให้อวัยวะสำคัญๆ เช่น เส้นเลือด ตับ ไต หัวใจ ตาและสมองค่อยๆ เสื่อมลง ตัวอย่างความผิดปกติก็ เช่น การปัสสาวะที่ผิดปกติ ตามองภาพไม่ชัด เป็นต้น

ความน่ากลัวที่ 2 โรคเบาหวานค่อนข้างจะเป็นโรคที่ขี้เหงาอยู่สักหน่อย ถ้าเราไม่คุมเขาไว้ดีๆ เขาจะไปชักชวนเพื่อนๆ โรคทั้งหลายมาหาเรา ไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดต่างๆ โรคเหน็บชา หรือแม้กระทั่งโรคติดเชื้อบางชนิด

ความน่ากลัวที่ 3 ข้อนี้พูดไปแล้วอาจจะดูน่ากลัวสักหน่อยก็คือ ด้วยองค์ความรู้ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้หายขาดจากโรคเบาหวานได้ ถ้าพูดภาษาชาวบ้านง่ายๆ ก็คือ "โรคเบาหวานเนี่ยไม่มีทางทำให้หายขาดได้"

ดูไปดูมาเจ้าโรคเบาหวานนี่ก็ดูน่ากลัวใช่ย่อย ค่อยๆ ทำให้คนเราตายลงช้าๆ สยดสยองจริงๆ แต่ แต่ แต่ ไม่ต้องกลัวไป ด้วยความรู้ในปัจจุบันเราสามารควบคุม ป้องกัน รวมถึงบรรเทาอันตรายจากโรคเบาหวานได้นะครับ ซึ่งเราจะมาพูดกันในตอนถัดไป แล้วเจอกันครับ...